ภาษาไทยวัฒนธรรมไทยที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์
เนื่องจาก
ภาษาไทย คือ มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์ไว้ และเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าไทยเป็นชาติที่มีวัฒนธรรมอันสูงส่งมาตั้งแต่สมัยโบราณ
ดังนั้นภาษาไทยจึงมีความสำคัญในฐานะเป็นเอกลักษณ์ประชาติ ก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ
เป็นเครื่องมือในการสื่อสารสร้างสัมพันธภาพระหว่างคนในชาติ
นอกจากนั้นภาษาไทยยังมีความสำคัญในฐานะเป็นตัวเสริมสร้างบุคลิกภาพที่แสดงถึงความเป็นไทย
และยังเป็นตัวส่งเสริมวัฒนธรรมไทยอื่นๆให้เจริญขึ้นอีกด้วย
แต่เนื่องด้วยกาลเวลาที่แปรเปลี่ยนส่งผลให้เทคโนโลยีต่างๆในยุคไร้พรหมแดนเจริญก้าวหน้าขึ้นอย่างไม่มีขีดจำกัด
คนรุ่นใหม่หันไปให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีเหล่านั้น จนลืมให้ความสำคัญกับภาษาไทย
ปล่อยให้ภาษาไทยถูกกลืนหายไปพร้อมกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเหล่านั้น
สังเกตได้จากปัจจุบันคนไทยเริ่มใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการเขียน การอ่าน
หรือแม้แต่การพูด ซึ่งสาเหตุการใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้องเหล่านี้
ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มวัยรุ่นที่ใช้สื่อออนไลน์ทาง Internet
ที่ต้องการประหยัดเวลาในขณะพิมพ์ จึงตัดคำให้สั้นลง หรือเขียนสะกดคำแบบผิดๆ
เป็นเหตุให้คำเหล่านั้นแพร่หลายจนกลายเป็นปัญหาสำคัญของการใช้ภาษาไทยในปัจจุบัน
ดังนั้นการอนุรักษ์ภาษาไทยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คนไทยทุกคนควรให้ความสำคัญ
เพราะหากคนไทยใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้องก็จะส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆตามมา
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความเข้าใจที่ไม่ตรงกันในระหว่างการสื่อสาร
ปัญหาการถ่ายทอดวัฒนธรรมต่างๆผิดเพี้ยนไป
และปัญหาวัฒนธรรมไทยอื่นๆไม่สามารถพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าขึ้นหรืออนุรักษ์ให้คงอยู่สืบไปได้
แต่หากคนไทยทุกคนช่วยกันอนุรักษ์ภาษาไทย ใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง
ปัญหาเหล่านั้นก็จะหมดไป ไทยก็จะเป็นชาติที่มีความโดดเด่นทางวัฒนธรรม
ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมทางภาษาหรือวัฒนธรรมอื่นๆอันเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติที่ชาติอื่นต่างก็ต้องยกย่องชื่นชมถึงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของความเป็นไทย
ดังนั้น ภาษาไทยคือสมบัติทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าที่สามารถแสดงถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี ดังเช่น บทประพันธ์กลอน๘ เรื่องภาษาไทย ของ ศาสตราจารย์ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ใน๒วรรคแรก ที่ว่า “ในโลกนี้มีอะไรเป็นไทยแท้ ของไทยแน่นั้นหรือคือภาษา” และ ๒ วรรคสุดท้าย ที่ว่า “เกิดเป็นไทยคนหนึ่งเราจึงมี ของดีดีชื่อว่า ภาษาไทย” ซึ่งบทประพันธ์ ๔ วรรคนี้ สามารถแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของภาษาไทยได้มากที่สุด
บทความนี้เคยส่งประกวดในโครงการ “The 39th 2014 World Youth Rally” ของทางสมาคมบ้านเยาวชนแห่งประเทศไทย (Hostelling International Thailand) ร่วมกับทางสมาคมบ้านเยาวชนแห่งประเทศเกาหลี (Hostelling International Korea) และผ่านการคัดเลือกได้เข้าร่วมโครงการทัศนะศึกษา ณ ประเทศเกาหลีใต้ ประเภท 6 วัน มาแล้ว แต่น่าเสียดายที่ผู้เขียนติดธุระทางบ้าน จึงไม่ได้ไปเข้าร่วมโครงการ ดังกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น